Paap (2003)

รีวิวหนังแนวโรแมนติก สืบสวนฆาตกรรม สาวสวยบริสุทธิ์ผุดผ่องโตมาในวัดและกำลังจะออกบวช แต่โลกพลิกกลับด้านเมื่อเธอค้นพบว่าเธอมีความรัก-ตัณหาราคะกับชายหนุ่มที่เธอออกไปเจอในโลกกว้าง ปัญหาคือ เธอคิดว่ามันเป็น “บาปที่เธอไม่สามารถสั่งหยุดได้”

Papp (2003) เล่าเรื่องราวของหญิงสาวใสซื่อ บริสุทธิ์, Kaya (Udita Goswami) ผู้เติบโตมากับพ่อ (Mohan Agashe) ในวัดกลางหุบเขาห่างไกลความเจริญ เธอถูกบิดาปลูกฝังความคิดเกี่ยวกับโลกภายนอกว่าเต็มไปด้วยสิ่งโสมมอันตราย อีกทั้งยังต้องการให้หญิงสาวบวชเป็นภิกษุณีอุทิศตนให้กับพระศาสนา อย่างไรก็ตามทุกอย่างมิได้เป็นไปตามที่พ่อของเธอประสงค์ เพราะการมาเยือนของ Shiven (John Abraham) นายตำรวจหนุ่มหล่อผู้ที่ทำให้ Kaya ได้ค้นพบรักคัณหาราคะที่เธอคิดว่ามันคือบาปที่มิอาจถอนตัว

____________________________________

หนังอินเดียแนวอิโรติกระทึกขวัญเรื่องนี้เล่าเรื่องได้ค่อนข้างสนุก หนังมีพล็อตเรื่องหลักที่นางเอกต้องเผชิญกับความรักและตัณหา ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เธอไม่รู้จัก ไม่เคยสัมผัส เพราะโดนพ่อผู้เข้มงวดปิดหูปิดตามาตลอด ส่วนพล็อตรองเป็นการหนีการตามล่าของฆาตกร ซึ่งมันเป็นเหมือนเครื่องกระตุ้นเอาไว้บีบให้พระนางต้องมาอยู่ใกล้กันเรื่อยๆเพื่อซัพพอร์ตเนื้อเรื่องหลักที่ทำให้เราลุ้นระทึกตามไปด้วย เราชอบที่หนังหยิบท็อปปิก ‘โลกบริสุทธิ์’ และ ‘ตัณหาราคะ’ มาตัดสลับขั้ว ตัวละคร Kaya นางเอกของเรื่องเมื่อตกหลุมรักพระเอกก็ไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกได้ เพราะเธอไม่เคยเผชิญเรื่องแบบนี้มาก่อนและจากการถูกปลูกฝังความคิดจากบิดาว่าเรื่องแบบนี้เป็นบาปต้องหลีกเลี่ยง ทำให้เธอรู้สึกผิดบาป แต่ในความเป็นจริงแล้วเรื่องแบบนี้นั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาในความเป็นมนุษย์ที่ยังไงเราก็หนีไม่พ้น เรามองว่าการที่ Kaya เห็นภาพจินตนการเร่าร้อนกับผู้ชายนั้นเปรียบเสมือนภาพแรกที่เข้าไปกระตุ้นสัญชาตญาณดิบของความเป็นมนุษย์ในตัวเธอ ส่วนความรู้สึกรักตามมาทีหลัง เพียงแต่เจ้าหล่อนนั้นไม่เข้าใจว่ารักกับตัณหานั้นต่างกันยังไง และซ้ำยังไปมองว่ามันคือสิ่งเดียวกันที่เธอเรียกว่า ‘บาป’

พ่อของนางเอกเป็นอีกตัวละครอีกที่น่าสนใจไม่แพ้นางเอกเลย เขาเป็นตัวละครที่มีความคิดที่สุดโต่งมาก เราชอบฉากหนึ่งที่พระเอกและพ่อนางเอกปะทะอารมณ์อย่างดุเดือด โดยทางฝ่ายพ่อที่ต้องการให้ครอบครัวของเขาหลุดจากกิเลส แต่โดนอีกฝ่ายสวนกลับมาว่า “…แต่การอยากหลุดพ้นจากกิเลสก็คือกิเลสอีกอย่างไม่ใช่หรอ” ซึ่งเป็นประโยคที่เราจำได้แม่นที่สุดในตัวหนังเลย เพราะถ้าย้อนกลับมาดูเรื่องราวทั้งหมดฝ่ายผู้เป็นบิดานั้นต้องการให้ลูกสาวออกบวชเพื่อหนีจากโลกที่เต็มไปด้วยกิเลส แต่สุดท้ายแล้วการอยากและฝืนที่จะหลุดตรงนี้นี่แหละก็คือกิเลสดีๆนี่แหละ สุดท้ายแล้วมนุษย์ก็ไม่สามารถหนีสัญชาตญาณดิบ และตัวนางเอกก็วิ่งหนีหัวใจตัวเองไม่ได้

สิ่งหนึ่งที่น่าดึงดูดของหนังคือฉากสถานที่ ซึ่งโลเคชั่นจะเป็นวัดพุธธิเบต ถ่ายทำแถว Spiti Valley เหนือสุดของอินเดีย (แถว Leh Ladakh) อีกอย่างคือเครื่องแต่งกายนางเอกสวยทุกชุดจนน่าอิจฉา ส่วนตัวเราชอบ John Abraham พระเอกของเรื่องผู้ซึ่งตอนนั้นหล่อและกำลังได้รับความนิยมแบบสุดๆ ในปีถัดมาเขาฝากผลงานหนังแนว heist ที่ลืมไม่ลงอย่าง Dhoom โดยรับบทเป็นหัวหน้าโจรคู่ปรับพระเอก (นอกจากนี้เขายังเล่นเอ็มวี Dhoom กับทาทายังอีกด้วย) ไม่มั่นใจว่าเรื่องนี้ยังสามารถหาซื้อในรูปแบบ CD พากย์ไทยอยู่หรือเปล่า และที่แถวพาหุรัดจะยังมีจัดจำหน่ายอยู่ไหม เรื่องนี้สามารถรับชมออนไลน์ได้ แต่ไม่มีบรรยายค่ะ

____________________________________

ขอบคุณที่อ่านและติดตามค่ะ
Classic Reviewer

1 ความเห็น

ใส่ความเห็น