Speed (1994)

รีวิวหนังคลาสสิคที่ใหม่ขึ้นมาหน่อย แต่จริงๆก็เป็นหนังเก่ามากแล้ว Speed เป็นหนังแอคชั่น-ระทึกขวัญเกี่ยวกับการวางระเบิดบนรถบัส นำแสดงโดย Keanu Reeves, Sandra Bullock, และนักแสดงคลาสสิครุ่นเก๋า Dennis Hopper ผู้มารับบทตัวร้าย ซึ่งภาพยนตร์ดังกล่าวสามารถรับชมได้ที่ Disney+ Hotstar

Speed (1994) เป็นเรื่องราวของ Jack Traven (Keanu Reeves) นายตำรวจหนุ่มประจำกรมตำรวจลอสแอนเจลิส ที่ต้องเข้าไปพัวพันกับ Howard Payne (Dennis Hopper) ผู้ก่อการร้ายสุดน่ากลัว โดยในเหตุการณ์แรก Jack สามารถช่วยเหลือผู้โดยสารที่ติดอยู่ในลิฟต์ออกมาได้ซึ่งนั่นเป็นการเย้ยหยัน Payne เป็นอย่างมาก ต่อมา Jack ได้รับสารท้าทายจาก Payne ว่ามีระเบิดถูกติดตั้งในรถบัสที่กำลังแล่นอยู่ โดยระเบิดจะทำงานเมื่อความเร็วของรถเกินกว่า 50 ไมล์ต่อชั่วโมง ตำรวจหนุ่มต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยเหลือทุกๆคนออกมาจากยานพาหนะอันตรายนี้

____________________________________

ตัวหนังถูกแบ่งออกเป็นสามช่วงใหญ่ๆ ตั้งแต่ช่วงแรกที่พาเราไปทำความรู้จักตัวละคร Jack หรือพระเอกของเรื่องผ่านเหตุการณ์ช่วยเหลือคนออกจาตัวหนังถูกแบ่งออกเป็นสามช่วงใหญ่ๆ ตั้งแต่ช่วงแรกที่พาเราไปทำความรู้จักตัวละคร Jack หรือพระเอกของเรื่องผ่านเหตุการณ์ช่วยเหลือคนออกจากลิฟต์, จากนั้นเป็นช่วงเหตุการณ์หลักที่ Jack ต้องช่วยเหลือผู้โดยสารออกจากรสบัสที่ถูกวางระเบิด, และช่วงสุดท้ายที่เขาต้องไปสะสางปัญหาทั้งหมดที่รถไฟใต้ดิน โดยช่วงแรกนี่ถือเป็นช่วงสำคัญมากๆ เพราะหนังพาเรารู้จักความเป็นไปเป็นมาของ Jack ผ่านบทสนทนาพูดคุยกันเล่นๆกับคู่หูของเขา ซึ่งบทสนทนาที่ว่ามาตรงนี้กลายเป็นคำบอกใบ้หรือ foreshadow ในเหตุการณ์ต่อไปๆ เช่น การช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกล็อคตัวโดยคนร้ายที่กำลังหลบหนี โดยตำรวจหนุ่มเชื่อว่าการยิงตัวประกัน คือทางออกที่ดีที่สุด แต่แล้วสิ่งที่เขาพูดกับเพื่อนมันก็เกิดขึ้นจริงๆ ในช่วงต่อมา และอีกครั้งในช่วงท้ายเรื่อง ทำให้คนดูลุ้นว่าพระเอกจะจัดการกับเหตุการณ์ตรงหน้านี้อย่างไร นอกจากนี้ Speed ยังมีความเป็น Hitchcockian หรือความเป็นหนังฮิตช์ค็อกในแง่ของการเล่นกับความรู้สึกกับคนดู หรือการตั้งระเบิดเวลาเอาไว้ให้คนดูลุ้นจนแทบเอาตัวนั่งไม่ติดอยู่กับเก้าอี้

โดยรวมเป็นหนังที่อยู่ในเกณฑ์ประทับใจมากๆ Speed เล่าเรื่องด้วยความสนุกในแบบเรียบง่าย ไม่หลุดธีม ทำให้เรานึกถึงหนังรถซึ่งเป็นหนังโปรดของเราอีกเรื่อง – The Italian Job (2003) ทั้งสองไม่ได้ใกล้เคียงอะไรกันเลย แต่เรารู้สึกถึงความเหมือนกันในแง่ของความคุมโทนอยู่ในมู้ดของตัวเอง หนังรู้หน้าที่ตัวเองว่าจะเล่าอะไร และที่สำคัญไม่พยายามโอเวอร์ (ทั้งนี้ขอไม่เอี่ยวกับภาคสองนะ) ซึ่งนั่นคือเหตุผลว่าทำไม Speed กลายเป็นหนังแอคชั่นคลาสสิคไปแล้ว นอกจากนี้นักแสดงทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากๆ แต่ Keanu คือคนที่โดดเด่นที่สุดในสายตาเรา ไม่ใช่เพราะความหล่อเหลา แต่ตัวละครของ Jack มีความซับซ้อน ดูมีความเป็นมนุษย์ – จากตอนแรกที่เห็นว่าพระเอกเป็นตำรวจที่โคดเท่สุดๆ แต่พอตัวเองต้องเผชิญกับเหตุการณ์สูญเสียเขาก็ระเบิดอารณ์แบบสติหลุดออกมา ส่วนตัวละคร Annie สาวมหาลัยที่รับบทโดย Sandra Bullock เป็นตัวละครที่สำคัญคนนึงของเรื่อง เธอทำหน้าที่เสมือนเป็นคู่หูกับพระเอก ซึ่งเคมีของ Keanu และ Sandra นั้นดีมากๆ และจนเมื่อ 20 กว่าปีผ่านไปทั้งคู่ต่างได้ออกมาสารภาพในรายการ The Ellen Degeneres Show ว่าเคยปิ๊งปั๊งแต่ไม่เคยเดทกันแต่อย่างใด ซึ่งหลักฐานที่ไม่สามารถลบเลือนไปไหนได้ก็คือเคมีที่ลงตัวของทั้งคู่

สำหรับ Speed ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแค่ชื่อหนังที่อธิบายเนื้อเรื่องในการรักษาความเร็วบนรถบัสเท่านั้น คำคำนี้ยังมีความหมายลึกเข้าไปอีกนั่นคือมู้ดแอนด์โทน ซึ่งทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นในหนังในแต่ละช่วงเกี่ยวข้องกับความเร็วทั้งนั้น รวมไปถึง Speed ในที่นี้อาจจะหมายถึงความรวดเร็วในการช่วยเหลือตัวประกันด้วย เพราะทุกๆช่วงของหนังมีระเบิดเกี่ยวข้องด้วยหมดและพระเอกต้องใช้ Speed ในการช่วยตัวประกัน หนังเรื่องนี้สามารถหาซื้อได้ทั่วไปค่ะ และใน Disney+ Hotstar ค่ะ

____________________________________

ขอบคุณที่อ่านและติดตามค่ะ
Classic Reviewer

ใส่ความเห็น