Haseen Dillruba (2021)

รีวิวหนังโรแมนติก-ระทึกขวัญ สไตล์สืบสวนฆาตกรรมฝั่งอินเดีย เล่าเรื่องราวความรักของหญิงสาวผู้หนึ่งที่ตกอยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมสามี Haseen Dillruba (2021) ออกฉายทาง Netflix และได้กระแสตอบรับดีอย่างมากโดยติดอันดับท็อป 10 ใน 22 ประเทศที่มีคนเปิดดูมากที่สุดใน Netflix ของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ภาพยนตร์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานประพันธ์นิยายสั้นของ Roald Dahl ในเรื่อง Lamb to the Slaughter, 1953 เกี่ยวกับการฆาตกรรมที่สมบูรณ์แบบ

Haseen Dillruba (2021) เป็นเรื่องราวของความรักสุดดาร์กของ Rani (Taapsee Pannu) ที่จะมาเปิดเผยให้ตำรวจได้รับฟังหลังตกเป็นผู้สงสัยในฐานะฆาตกรสังหารสามี, Rishu (Vikrant Massey) หนังเล่าโดยตัดสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน จุดเริ่มต้นของคดีคือเหตุระเบิดในบ้านของพวกเขา Rani ได้พบข้อมือสามีที่ขาดออกจากร่างตกอยู่ภายในบ้าน ตำรวจนำเธอมาสอบสวนอย่างหนักโดยที่เจ้าหล่อนเองก็ค่อยๆเล่าเรื่องราวชีวิตรักให้ฟังตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเขาได้เจอกันจากการนัดดูตัว Rishu ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น เขาเป็นหนุ่มวิศวะกรแสนธรรมดา ส่วนเธอเป็นสาวรักสนุก อยากมีชีวิตรักที่น่าตื่นเต้นเหมือนในนิยายฆาตกรรมที่เธอชอบอ่าน ด้วยพื้นเพนิสัยที่ต่างกันสุดขั้วจึงทำให้ชีวิตแต่งงานดำเนินไปอย่างไม่ราบรื่น และเริ่มดำดิ่งลงเหวจากการมาเยือนของ Neel (Harshvardhan Rane) ญาติฝ่ายชายสุดมาดแมนที่มาทำให้ใจเธอสั่นไหว

____________________________________

ไม่ทราบว่าผู้อ่านเคยได้ยิน หรือคุ้นๆกับนิยาย Lamb to the Slaughter กันไหม เล่าเรื่องราวของภรรยาผู้แสนดีที่อุทิศร่างกายและจิตวิญญาณให้สามีผู้เป็นนายตำรวจ แต่เขากลับทรยศหักหลังเธอด้วยการนอกใจ ความคับแค้นบังเกิดเธอจึงสำเร็จโทษด้วยการทุบศรีษะสามีด้วยเนื้อแพะแช่แข็ง และทำลายหลักฐานด้วยการนำมันมาปรุงเป็นอาหารให้เหล่าเพื่อนๆสามีที่เป็นตำรวจทาน ช่างเป็นนิยายสั้นอาชญกรรมที่ดูสมบูรณ์แบบเสียจริง Haseen Dillruba ได้หยิบโครงคร่าวๆ ของนิยายสั้นเรื่องนี้มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเป็นพล็อตหนังที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้น วางพล็อตเนื้อหาให้สลับซับซ้อนน่าติดตามไปถึงตอนท้ายว่าใครกันคือฆาตกร และเรื่องราวความรักอันบ้าคลั่งจะดำเนินไปทิศทางไหน

จากที่กล่าวไปข้างต้นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยมจากผู้ชมเป็นอย่างมากและโดยรวมเป็นหนังที่ดูสนุกเรื่องหนึ่งเลย แต่พอเป็นมุมมองของทางสำนักสื่อและนักวิจารณ์แล้วกลับให้คะแนนไปในทางกลางค่อนลบ เนื่องจากเนื้อหาและบทดูไม่สมจริง มีจุดบกพร่องในพล็อตเรื่องค่อนข้างเยอะ อย่างเช่น ประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่การเก็บหลักฐานจนไปถึงการสวบสวนซึ่งดูไม่สอดคล้องกับเทคโนโลยีตามยุคสมัย และจุดต่อมาคือการตัดสินใจ, การกระทำของตัวละครดูไม่มีน้ำหนักและไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นจริง แต่ก็น่าแปลกที่คนดูทั่วไปกลับให้เสียงตอบรับในทางบวก ทั้งนี้เรามองว่าเนื้อหาทำนองแนวโรแมนติกดราม่ารักๆ แค้นๆ ปนเลือดรวมกับกลิ่นอายลึกลับซ่อนเงื่อนคือความเซ็กซี่ที่น่าค้นหา เหมือนได้หลุดออกไปจากโลกความเป็นจริง นอกจากนี้ Haseen Dillruba เป็นหนังที่เล่นกับสันดารดิบ, เบื้องลึกภายใต้จิตใจอันดำมืดของมนุษย์ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมองว่าหนังตั้งใจมาขายความบ้าระห่ำอะไรทำนองนี้มากกว่า

โดยรวม Haseen Dillruba เป็นหนังที่เล่าเรื่องสนุก เหล่านักแสดงทำผลงานออกมาได้น่าประทับใจ อย่างไรก็ตามจุดอ่อนอยู่ที่การเล่าเรื่องด้วยหลากหลายอารมณ์เกินไป บรรยากาศโดยรวมของหนังไม่มีความลื่นไหลไปในทิศทางเดียวกัน อย่างช่วงต้นเรื่องเล่าหนังสไตล์รอมคอม ครึ่งหลังหลายเป็นดราม่าระทึกขวัญ ปรับอารมณ์เกือบไม่ทันเหมือนดูหนังคนละม้วน แต่ทั้งนี้วิธีการเล่าในแต่ละช่วงอารมณ์กลับทำได้ดีเสียอย่างนั้น (การที่หนังมีหลากหลายรสชาติเกินไปอาจจะแปลกในสายตาของคนหมู่มาก แต่มันคือรสนิยมความชอบของคนอินเดีย) ทางด้านฉากหลังจัดอยู่ในเมืองเล็กติดแม่น้ำสร้างบรรยากาศชวนหลงไหลและดูลึกลับ ถ้าใครชอบแนวโรแมนติกดาร์กผสมกับ murder mystery เรื่องนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถเอนจอยในเวลาว่าง

____________________________________

ขอบคุณที่อ่านและติดตามค่ะ
Classic Reviewer


ใส่ความเห็น