Spiral Staircase (1946)

รีวิวหนังนัวร์-ระทึกขวัญฉบับแนวไล่ล่าฆาตกรรมที่มาก่อนกาล, Spiral Staircase (1946) เล่าเรื่องราวหญิงใบ้ที่ต้องหนีเอาตัวรอดจากฆาตกรต่อเนื่องในคฤหาสน์โกธิคที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสุดหลอน กำกับโดย Robert Siodmak และนำแสดงโดย Dorothy McGuire, Ethel Barrymore, George Brent เป็นต้น หนังเรื่องนี้นอกจากจะเป็นแนวไล่เชือดแบบเดอะไฟนอลเกิลหญิงสาวคนสุดท้ายแล้ว ยังแสดงถึงแนวคิดสตรีนิยมอีกด้วย

Spiral Staircase (1946) เล่าเรื่องราวในช่วงปี 1906 ที่เมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง ฆาตกรต่อเนื่องกำลังออกอาละวาด มันชอบเล็งเหยื่อที่เป็นสตรีที่มีความบกพร่องทางร่างกาย Helen (Dorothy McGuire) เป็นหญิงใบ้ที่ทำงานในแมนชั่นโกธิคของตระกูล Warren ถูกเพ่งเล็งว่าอาจจะเป็นเหยื่อรายต่อไป นายหญิงของบ้าน (Ethel Barrymore) เตือนให้เจ้าหล่อนรีบออกนอกเมืองให้เร็วที่สุด ระหว่างที่ Helen กำลังรอหมอ Parry (Kent Smith) ชายคนรักมารับตัว ฆาตกรก็ได้เข้ามาใกล้เธอขึ้นเรื่อยๆแล้ว

____________________________________

ชื่อของหนัง, Spiral Staircase ที่แปลว่าบันไดวนสามารถอธิบายเรื่องราวภายในหนังได้อย่างชัดเจน ในทางปกติบันไดที่ใช้ภายในตัวบ้านแสดงความหมายในเชิงสัญลักษณ์ถึงการก้าวมุ่งไปข้างหน้าอย่างมีจุดหมาย ต่างกับบันไดวนที่อยู่ส่วนด้านในหรือด้านหลังของตัวบ้านสื่อถึงความลึกลับซ่อนเงื่อนซึ่งสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเรื่อง ทั้งนี้ลักษณะเกลียวโค้งวนของบันไดเองแสดงถึงความลุ่มหลงเหมือนที่ตัวละครฆาตกรต่อเนื่องหมกมุ่นอยู่กับการกำจัดผู้หญิงที่มีจุดด่างพร้อยเพื่อกลบเกลื่อนปมภายในจิตใจ

หนังเล่าเรื่องโดยการใช้ความระทึกขวัญอย่างมีชั้นเชิง เช่น การวางระเบิดเวลาสร้างอารมณ์หวาดเสียวให้คนดูตั้งแต่ต้นเรื่อง ด้วยวิธีการให้พวกเราตระหนักเห็นว่าฆาตกรได้ย่างกรายเข้าในบริเวณบ้านในขณะที่ตัวละครนำไม่รู้ตัวเลยว่าอันตรายได้เข้ามาใกล้ทุกที เหตุการณ์ดังกล่าวลุ้นให้คนดูเอาใจช่วยเธอให้รอดพ้นจากฆาตกร ต่อมาคือการที่ตัวละครนำเป็นใบ้ ทำให้ผู้ชมบีบคั้นกว่าเดิม เพราะเจ้าหล่อนไม่สามารถเปล่งเสียงขอความช่วยเหลือจากใครได้เลย ทางด้านการถ่ายทอดทางภาพและเล่าเรื่องในเชิงศิลปะก็ทำได้น่าประทับใจ โดย Robert Siodmak ผู้กำกับชาวเยอรมันเป็นมือโปรในการทำหนังนัวร์-ระทึกขวัญ ได้หยิบนำเทคนิค German Expressionism ที่เขาคุ้นเคยมาประกอบใช้ เช่น การสร้างบรรยากาศสลัวๆในแมนชั่นโกธิค, นำศิลปะแนวเซอร์เรียลกึ่งนามธรรมมาใช้ในฉาก POV ของฆาตกร (POV – Point of View กล้องทำหน้าที่เป็นตา/มุมมองของตัวละครเอก), และการใช้เทคนิคไครอสคูโร (Chiaroscuro) หรือศิลปะการจัดแสงเงาแบบที่มีค่าความต่างแบบสุดจัด ทำให้สถานที่หลักของเรื่องนั้นเป็นสถาที่ที่ดูลึกลับอันตราย

Spiral Staircase เป็นหนังที่สื่อเป็นนัยในการแสดงถึงพลังของอิสตรีและความเท่าเทียมทางเพศ จากการที่ตัวละครนำนั้นเป็นผู้หญิง เธอได้โชว์กึ๋นต่างนาๆในการเอาตัวรอดจากฆาตกรโดยไร้การช่วยเหลือจากตัวละครผู้ชาย ฉากโครงเรื่องของตัวหนังจัดอยู่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งยังอยู่ในสังคมที่ชายเป็นใหญ่ ตัวละครชายในเรื่องมีมุมมองว่าตัวเองเป็นเพศที่เหนือกว่าทั้งในแบบที่แสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้งแบบตัวละคร Stephen ลูกชายคนเล็กของบ้าน หรือที่มาในรูปแบบหวังดีคิดเองเออเองแบบหมอ Parry ทั้งนี้ตัวละคร Helen ที่เป็นใบ้นั้นเหมือนเป็นตัวแทนของผู้หญิงยุคต้นศตวรรษที่ 20 ที่ ‘ไม่มีปากไม่มีเสียง’ ต่อให้มีความรู้สึกนึกคิด อยากจะแสดงความคิดเห็นกับโลกภายนอกก็ทำไม่ได้

ทางด้านงานแสดง Dorothy McGuire ผู้รับบท Helen เป็นสาวใบ้ที่น่ารักสดใส เจ้าตัวดูเหมาะสมกับบทนี้อย่างมากคงเพราะใบหน้าที่ดูสวยแบบเรียบๆ ไร้พิษสง น่าทะนุถนอม ส่วน Ethel Barrymore ในบทคุณนาย Warren ทำผลงานออกมาได้น่าประทับใจที่สุด ตัวละครและการแสดงของเธอมีมิติน่าสนใจในความเป็นหญิงสายสตรองถึงแม้สภาพร่างกายจะสวนทางก็ตาม และยังเป็นตัวละครที่โชว์ความเป็นเฟมินิสต์ออกมาอีกด้วย ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ อาทิ George Brent, Gordon Oliver, Kent Smith, Rhonda Fleming, Sara Allgood และ Elsa Lanchester ในเรื่องต่างทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี (คนส่วนใหญ่รัก Elsa Lanchester มาก ซึ่งเธอคือนักแสดงผู้เป็นภรรยาของ Charles Laughton) ภาพยนตร์มีลงในยูทูป ส่วนคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษที่มีบทสนทนาเข้าใจง่ายค่ะ

____________________________________

ขอบคุณที่อ่านและติดตามค่ะ
Classic Reviewer


ผู้กำกับ

นักแสดง

ใส่ความเห็น