Singham (2011)

หากคุณต้องเป็นผู้รักษากฏหมายเพียงคนเดียวที่พร้อมจะต่อสู่กับระบบคอรัปชั่นคุณจะยืนหยัดอยู่ในความดีต่อไปหรือไม่? 

รีวิวหนังแอคชั่นฝืนกฎฟิสิกส์สุดมันส์ เรื่องราวของนายตำรวจผู้ผดุงความยุติธรรมที่มีจิตใจมั่นคงต่อสู้กับความชั่วร้ายแม้ด้วยตัวคนเดียวก็ตาม Singham (2011) เป็นภาพยนตร์ที่มีกลิ่นอายความเป็นหนังคาวบอยฮอลลิวู้ดในตำนานอย่าง High Noon (1952) บวกกับเนื้อเรื่องเข้มข้นที่นอกจากจะสร้างมาเพื่อความสนุกแล้วอาจจะมีประสงค์จิกกัดระบบข้าราชการที่เต็มไปด้วยความฉ้อฉล

Singham (2011) หรือสารวัตรบาจิเราว์ สิงห์ฮาม (อะเจย์ เดฟกัน) เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เป็นที่รักใคร่และยำเกรงของคนในหมู่บ้านเล็กๆได้ไปมีเรื่องขัดใจกับไจกานต์ ชิกรี (ปรากัช ราช) นักธุรกิจแก๊งค์มาเฟียที่ทรงอิทธิพลจากอีกถิ่น ทำให้ฝ่ายหลังใช้อำนาจมืดโยกย้ายสิงห์ฮามเข้ามาในถิ่นของตัวเองเพื่อหาเรื่องกลั่นแกล้งด้วยวิธีต่างนาๆ โดยหวังให้มีจุดจบแบบเดียวกับสารวัตรคนก่อนหน้าที่ฆ่าตัวตายหนีความอับอาย สิงห์ฮามที่มีชะตากรรมลูกไก่ในกำมือจะทำอย่างไร

____________________________________

Singham เป็นหนังบอลลิวู้ดมาสซาล่าที่เต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ตั้งแต่แอคชั่น รัก ตลก ดราม่า มิวสิคัล ยำรวมกันในแบบที่พอดิบพอดี เฉกเช่นเดียวกับแกงมาสซาล่าของขึ้นชื่ออินเดียที่มีครบทุกรสชาติ โดยรวมเป็นหนังสไตล์ตำรวจจับผู้ร้ายที่ไม่ได้มีเนื้อเรื่องแปลกใหม่อะไร แต่ดำเนินเรื่องราวได้สนุก ตัวละครนำมีคาแรคเตอร์ที่น่าสนใจ, ‘สิงห์ฮาม’ หรือชื่อที่แปลว่าสิงโตตรงนี้จงใจสื่อถึงตราราชสีห์บนหมวกผู้รักษากฏหมาย ตัวละครดังกล่าวเป็นนายสารวัตรตำรวจที่เปรียบเสมือนฮีโร่วีรบุรุษ มองผิวเผินเขาดูเป็นผู้ชายที่เดินตามเกมคงอยู่ในระบบกฏหมาย แต่ไม่ใช่ทีเดียวตัวละครนี้มีความลึก มีความฉลาด มีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิง ไม่ได้เล่นไปตามกฏกติกาทุกอย่าง ทั้งนี้เพื่อปกป้องประชาชนและรักษาเกียรติศักดิ์ศรีในอาชีพ จุดเด่นของหนังอยู่ที่ฉากแอคชั่นเล่นใหญ่ฝืนกฏระบบฟิสิกส์ที่โลกเคยบัญญัติ ทั้งนี้ทำมาเพื่อความฮาล้วนๆ แถมยังแอบจิกกัดระบบข้าราชการที่เต็มไปด้วยความไม่โปร่งใสไปในตัว เพราะคนอย่างสิงห์ฮาม ที่เป็นตัวแทนแห่งตรา’ราชสีห์’ คอยดูแลความทุกข์สุขประชาชนนั้นดีเกินไปที่จะมีอยู่จริง ดังนั้นฉากแอคชั่นของตัวละครนี้จึงอธิบายได้ว่าทำไมมันดูโอเวอร์เกินจริง

เพลงคือหัวใจหลักของหนังบอลลิวู้ด ซึ่งนอกจากจะสร้างสีสันแล้วยังสามารถเล่าเรื่องไปในตัวได้อีก Singham มีการใช้เพลงเล่าหนังอยู่ประมาณ 3 ช่วงถือว่ามีจำนวนไม่เยอะ เพลงเปิดตัวสิงห์ฮามในช่วงต้นเรื่องคือซีเคว้นที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ มีองค์ประกอบมิวสิควิดิโอที่ดีทั้งในแง่การเล่าเรื่องที่อธิบายความเป็นไปเป็นมาของตัวละครนำในแบบรวดเร็วเข้าใจง่าย, การตัดต่อที่ลงล็อคกับจังหวะเพลงเร็วบวกกับงานกำกับศิลป์ที่ทำออกมาได้สวยงามมีพลัง มีการเล่นกับคู่สีตัดกันระหว่างฟ้าและส้มที่ทำให้งานดูตื่นเต้นและสดชื่น โดยในฉากดังกล่าวตัวละครสิงห์ฮามใส่ชุดยีนส์น้ำเงินเดินไปมาเป็นไฮไลท์ให้เราตับจ้องโดดเด่นท่ามกลางแดนเซอร์และควันไฟที่เป็นสีส้ม ทั้งนี้ท่วงท่าการเดินของสิงห์ฮามนั้นมักจะเดินเข้าหากล้องและจ้องมองมาที่คนดูโดยตรง อาจจะเป็นแอคชั่นที่ธรรมดาแต่กลับรู้สึกเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ภายหลังท่วงท่าการเดินทำนองนี้ถูกหยิบนำมาให้เห็นบ่อยครั้งเมื่อเขาพร้อมบวกกับตัวร้าย คอนเซ็ปต์แอคชั่นการเดินดังกล่าวชวนให้นึกถึงหนังคาวบอยในตำนานอย่าง High Noon (1952) เสียจริงเป็นการแสดงออกแบบเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยพลัง

Singham เป็นหนังรีเมคมาจาก Singam หนังทามิลอินเดียใต้ที่ประสบความสำเร็จไปเมื่อปีก่อนหน้า พอลิขสิทธิ์ถูกขายต่อมายังบอลลิวู้ดก็ได้โรฮิต เช็ตตี้มานั่งแท่นผู้กำกับซึ่งเจ้าตัวก็มีลายเซ็นโดดเด่นอยู่แล้วในการทำหนังบู๊ ทางด้านนักแสดงได้อะเจย์ เดฟกัน สตาร์เบอร์ใหญ่ของวงการมาแสดงนำ ซึ่งบทสิงห์ฮามนี้เหมือนมีไว้สำหรับเขาเพียงคนเดียว เจ้าตัวเหมาะสมกับบทบาทนี้เสียจริงด้วยหุ่นลุคที่ดูสมาร์ท และสายตาดุดันราวราชสีห์ ส่วนปรากัช ราชผู้รับบทหัวหน้าตัวร้ายกลับมารับบทนี้ บทเดิมที่เคยแสดงไว้ในเวอร์ชั่นก่อนหน้า ซึ่ง ณ ขณะนั้นเจ้าตัวก็กำลังอยู่ในช่วงพีคของงานแสดง ภายหลังโรฮิต เช็ตตี้แปรรูปให้ Singham กลายมาเป็นหนังแฟรนไชส์ Cop Universe (จักรวาลตำรวจ) โดยปล่อยอีกสามเรื่องต่อมา อาทิ Singham Returns (2014) ภาคต่อจากภาคแรก, Simmba (2018) เรื่องราวของเด็กหนุ่มจากบ้านเดียวกับซิงฮัมที่โตขึ้นมาเป็นนายตำรวจผู้เลือกเส้นทางคอรัปชั่น, และ Sooryavanshi (2021) เป็นเรื่องของนายตำรวจที่ต้องหยุดแผนการชั่วร้ายที่เป็นภัยคุกคามต่อคนในเมือง ซึ่งผลตอบรับหนังแฟรนไชส์ทั้งหมดล้วนประสบความสำเร็จ สามารถรับชม Singham (2011) และ Sooryavanshi (2021) ได้ใน Netflix ค่ะ 

____________________________________

ขอบคุณที่อ่านและติดตามค่ะ
Classic Reviewer

ใส่ความเห็น