To Have and Have Not (1944)

รีวิวหนังโรแมนติก-ผจญภัยของคู่รักนักแสดง Humphrey Bogart และ Lauren Bacall, To Have and Have Not (1944) เล่าเรื่องราวความรักและความกล้าหาญของกัปตันเรือนายหนึ่งที่รับงานเสี่ยงตายช่วยเหลือกลุ่มคนที่มีความขัดแย้งทางการเมืองกับฝ่ายตรงข้ามในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กำกับโดย Howard Hawks โดยหนังอิงมาจากนิยายของนักเขียนชื่อดังอย่าง Ernest Hemingway ความพิเศษของตัวหนังคือการเข้าฉากของคู่พระ-นาง ที่กลายเป็นซีนคลาสสิกในตำนาน 

To Have and Have Not (1944) เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง บนเกาะ Martinique หนึ่งในอาณานิคมฝรั่งเศสตั้งอยู่แถวทะเลแคริบเบียน ซึ่งตอนนี้ถูกปกครองโดย Vichy France หรือรัฐที่ให้การสนับสนุนนาซี 

Harry Morgan (Humphrey Bogart) เป็นกัปตันรับจ้างเดินเรือชาวอเมริกันที่ทำมาหากินบนเกาะแห่งนี้โดยไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่แล้ววันหนึ่งเขาที่กำลังถังแตกได้จำใจรับงานลักลอบขนย้ายพวกต่อต้านทางการ ซึ่งเป็นภารกิจที่อันตรายอย่าวมาก ทั้งนี้กัปตันหนุ่มใหญ่ตกลงรับงานส่วนหนึ่งก็เพราะอยากจะช่วยเหลือ “Slim” Marie Browning (Lauren Bacall) โจรสาวมือกาวที่เขาตกหลุมรัก

____________________________________

ขอเปรียบว่าหนังเรื่องนี้คือ Casablanca (1942) ฉบับสเกลเล็กที่ย่อยง่ายกว่า เพราะว่าภาพรวมหลายๆอย่างในตัวหนังมีความคล้ายกับหนังขึ้นหิ้งดังกล่าว เช่น ธีมหนังที่พูดถึงความรัก-ความกล้าหาญ เนื้อเรื่องมีตัวเอกเป็นชาวอเมริกันที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดต้องถูกบีบให้ตัดสินใจช่วยเหลือกลุ่มต่อต้านชาวฝรั่งเศส มีตัวละครที่เป็นนักเปียนโนเล่นอยู่ในไนท์คลับของโรงแรม เป็นต้น ทั้งนี้จะต่างกันก็ตรงที่ To Have and Have Not (1944) นั้นไม่สามารถเทียบเคียงพลังไดนามิก ความยิ่งใหญ่หนังรุ่นพี่ที่ออกฉายสองปีก่อนหน้าได้

อย่างไรก็ตามความพิเศษของหนังดังกล่าวอยู่ที่เรื่องราวหลังกองของสองตัวนักแสดงนำเสียมากกว่า โดย To Have and Have Not (1944) เป็นหนังที่นำพา Humphrey Bogart มาเจอกับ Lauren Bacall ว่าที่ภรรยาในอนาคตที่มีอายุอ่อนกว่าถึง 25 ปี การเข้าฉากของทั้งโบกี้และเบคอลนั้นเป็นอะไรที่โรแมนติกฟินจิกหมอนสุดๆ แถมบางฉากยังกลายเป็นซีนในตำนานอีกด้วย เช่น ฉากที่เบคอลขอไม้ขีดไฟ หรือฉากที่เบคอลบอกให้เขาผิวปากเวลาต้องการเรียกหาเธอ เรียกได้ว่าเคมีดีงามจนล้นทะลักออกมานอกจอจนเก็บไม่อยู่ นอกจากนี้ตัวละครของพวกเขายังมีการตั้งชื่อเล่นเรียกกันเองว่า Steve และ Slim อีกด้วย ซึ่งเป็นการหยิบชื่อเล่นของ Howard Hawks และภรรยาที่ใช้เรียกกันในชีวิตจริง

“You know how to whistle, don’t you, Steve? You just put your lips together and blow.”

คุณผิวปากเป็นใช่หรือเปล่า สตีฟ ? คุณแค่นำริมฝีปากเข้าหากันและเป่ามันออกมา

นอกเหนือจากเคมีของคู่พระนางที่กล่าวไว้จากย่อหน้าข้างบนแล้ว ต้องขอเสริมต่ออีกหน่อยว่า To Have and Have Not (1944) เป็นหนังเรื่องแรกของ Lauren Bacall ในวัยเพียง 18 ปี แน่นอนว่าคนดูสามารถมองเห็นถึงอาการประหม่าของเธอที่หลุดออกมาให้เห็นอยู่บ้าง แต่กระนั้นเจ้าตัวได้พยายามเก็บซ่อนอาการด้วยการแสดงให้เห็นถึงความมั่นอกมั่นใจ และอาจจะเพราะความเซ็กซี่มีสเน่ห์ของเธอเป็นอีกตัวแปรที่ช่วยกลบเกลื่อนความประหม่าได้ ด้าน Humphrey Bogart ทำผลงานได้ดี เราชอบสายตาของเขาที่มองไปยังฝ่ายหญิงด้วยความเคลิบเคลิ้มเอ็นดู ในบท Harry Morgan จะดูต่างกับตอนรับบท Rick Blaine หรือบทเครียดๆเรื่องอื่นไปเลย หรืออาจจะเพราะเราไม่ค่อยได้เห็นโบกี้ในบทบาทแบบนี้ล่ะมั้ง ส่วนนักแสดงสมทบคนอื่นๆ ล้วนทำผลงานได้น่าประทับใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ *character actor อย่าง Walter Brennan ในบทตาลุง Eddie ขี้เมาผู้เป็นไซด์คิกของพระเอก ที่เรียกได้ว่าออกมาทีไรก็สร้างเสียงหัวเราะ เราชอบการแสดงของเขาที่ไม่ได้โชว์ว่ากำลังเมาอย่างเดียว แต่พ่วงมากับการชักตระตุกที่ข้อเท้าขณะเดิน สมจริงมากจนแยกไม่ออกแล้วว่านี่เรื่องจริงหรือการแสดง
*character actor ใช้เรียกนักแสดงที่ไม่ได้รับบทนำ โดยตัวละครที่ได้รับมักจะเป็นคนเพี้ยน เหนือธรรมดา หรืออาจจะมีความโดดเด่นทางรูปลักษณ์ภายนอก

โปรเจคของหนังเกิดขึ้นจากการที่ Howard Hawks ได้ชวน Ernest Hemingway ผู้เป็นเพื่อนสนิทมาเขียนบทหนัง แต่ฝ่ายนักเขียนเจ้าของรางวัลโนเบลไม่มีความประสงค์ที่จะเข้ามาทำงานในฮอลลิวู้ด ดังนั้น Hawks จึงขอหยิบนิยายเล่มที่เขาคิดว่าห่วยที่สุดของ Hemingway มาสร้างหนังแล้วกัน ซึ่งนั่นก็คือ To Have and Have Not (1937) เมื่อเจรจากันลงตัวแล้ว Hawks ได้สั่งทีมเขียนบทปรับแก้เนื้อเรื่องและคาแรคเตอร์ตัวละครจากต้นฉบับเพื่อให้ตรงตามสเปคของเขา เช่น ภาพลักษณ์ตัวละครนำชายจะต้องมีความสง่าแบบชายชาตรี ซึ่งเราจะได้เห็น Harry พระเอกของเรื่องที่มีลักษณะผู้นำ ดูเป็นฮีโร่พึ่งพาได้ ส่วนฝ่ายหญิงจะต้องมาแนวสายสตรอง ฉลาดด้วยสติปัญญา สามารถช่วยและซัพพอร์ตตัวละครชายได้ด้วย และ Slim นางเอกของเรื่องนี้มีครบทุกอย่าง (การแต่งตัวของ Bacall มีการเสริมแผ่นรองไหล่ เสริมความเป็นชาย ดูสง่าผ่าเผย) เป็นต้น

โดยรวม To Have and Have Not (1944) เป็นหนังรักแนวเหตุการณ์ที่เกิดในช่วงยุคสงครามที่ดูสนุก ย่อยง่าย มีมุกตลกปล่อยมาเรื่อยๆ ถ้าใครอยากดูหนังแนว Casablanca ที่เครียดน้อยกว่าก็แนะนำเรื่องนี้เลยค่ะ หนังมีจำหน่ายในร้านค้าออนไลน์ พร้อมบรรยายไทยค่ะ

____________________________________

ขอบคุณที่อ่านและติดตามค่ะ
Classic Reviewer


ผู้กำกับ

นักแสดง

ใส่ความเห็น