Mutiny on the Bounty (1935)

รีวิวหนังออสการ์ยอดเยี่ยมแนวดราม่าผจญภัย, Mutiny on the Bounty (1935) เป็นหนังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในช่วงศตวรรษที่ 18 เล่าเรื่องราวการก่อกบฏบนเรืออังกฤษ โดยเหล่าลูกเรือจำนวนหนึ่งได้เข้ายึดเรือจากกัปตันที่มีนิสัยเหี้ยมโหด หนังกำกับโดย Frank Lloyd และนำแสดงโดย Charles Laughton, Clark Gable, Franchot Tone เป็นต้น ความน่าสนใจของ Mutiny on the Bounty (1935) มีตั้งแต่เนื้อเรื่อง, ตัวละคร รวมไปถึงฉากสถานที่ที่นำพาคนดูหลุดไปไกลบนท้องทะเลอันไกลโพ้น

Mutiny on the Bounty (1935) เป็นเรื่องราวการก่อกบฏบนเรือ Bounty ช่วงขณะเดินเรือขากลับจากเกาะตาฮีตีในบริเวณทะเลแปซิฟิกใต้ Fletcher Christian (Clark Gable) รองกัปตันเรือเข้าทำการยึดเรือจากกัปตัน Bligh (Charles Laughton) เพราะทนต่อพฤติกรรมอันโหดเหี้ยมอำมหิตของเขาที่ปฏิบัติต่อลูกเรือคนอื่นๆไม่ไหว อย่างไรก็ตามเรื่องวุ่นวายไม่ได้จบเพียงเท่านี้ เมื่อต่อมามีเรืออีกลำของอังกฤษกำลังออกตามล่ากลุ่มกบฐโดยหมายจะนำพวกเขาไปสำเร็จโทษที่อังกฤษ

____________________________________

หนังสร้างมาจากนิยายไตรภาค ‘The Bounty’ (Mutiny on the Bounty, Men Against the Sea และ Pitcairn’s Island) ของสองนักเขียนอเมริกัน, Charles Nordhoff และ James Norman Hal ออกวางจำหน่ายในปี 1932-34 โดยตัวหนังดำเนินเนื้อเรื่องโฟกัสไปที่นิยายเล่มแรกและเล่มสองซึ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อกบฐยึดเรือและเหตุการณ์หลังกัปตัน Bligh ถูกขับไล่ให้ไปตายเอาดาบหน้า ส่วนเล่มลำดับสามที่หนังไม่ได้พูดถึงคือเรื่องราวชีวิตของ Fletcher Christian บนเกาะ Pitcairn’s Island หลังหนีโทษกบฐ ทั้งนี้ MGM เคยมีโปรเจคจะสร้างหนังจากเล่มดังกล่าวในอีกสิบปีถัดมา โดยหมายให้ Clark Gable กลับมารับบทเดิม แต่น่าเสียดายที่โปรเจคไม่เคยเกิดขึ้นจริง 

โดยรวมเป็นหนังที่น่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินเนื้อเรื่อง การวางตัวละคร การแสดง รวมไปถึงฉากอลังการงานสร้าง อย่างแรกที่อยากพูดถึงเลยคือความน่าสนใจของสามตัวละครนำที่ดูมีมิติเลเยอร์ อย่างเช่น Fletcher Christian ผู้เปรียบเสมือนฮีโร่ของเรื่องเป็นชายชาติทหารก็จริง แต่ก็มีมุมอ่อนโยน เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ส่วนกัปตัน Bligh ที่เรามองว่าเป็นคนไม่ดีนั้น แสดงออกชัดเจนว่ามีความโหดซาดิสต์ แต่อีกนัยก็เป็นผู้นำที่เก่งแบบหาตัวจับได้ยาก ส่วน Roger Byam หรือตัวเดินเรื่องก็มีความซับซ้อนในตัวเอง เพราะครั้นเรือถูกยึด เขาเลือกอยู่ข้าง Blighโดยยอมตัดเพื่อนกับ Fletcher ตรงนี้เป็นอะไรที่ตลกร้ายมากเพราะเจ้าตัวเองก็เคยถูกลงโทษอย่างไม่เป็นธรรมจาก Bligh และคนที่ช่วยชีวิตเขาคือ Fletcher 

เราชอบที่หนังทำให้เราได้ตั้งคำถามต่อเหตุการณ์การก่อกบฐของ Fletcher ว่ามันถูกต้องแล้วหรือเปล่า เราควรเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์มากกว่ากฏระเบียบใช่ไหม แล้วการที่เขาถูกขึ้นชื่อว่าเป็นกบฐและต้องได้รับโทษประหารมันแฟร์สำหรับเขาไหม อีกด้าน Bligh ทำตามหน้าที่โดยไม่มีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง และเจ้าตัวก็ให้ความสำคัญกับการรักษาระเบียบวินัยที่สุด แต่ความโหดร้ายก็เกินเบอร์ไปเยอะ ทำไมกฏหมายอังกฤษถึงไม่คุ้มครองทุกชีวิตอย่างเท่าเทียม และถ้าจะพูดโดยรวมแล้วหนังได้ทิ้งคำถามให้คนดูถกเถียงกันแบบไม่จบไม่สิ้นว่าหากเราเป็นคนในเรือเราจะเลือกกฎระเบียบความถูกต้องหรือความเป็นมนุษย์? 

ด้านการแสดงเรียกได้ว่าน่าประทับใจทุกคน โดยเฉพาะ Clark Gable ที่ดูแปลกหูแปลกตาจากเรื่องอื่นๆ ไม่ใช่แค่เรื่องหน้า ผม หนวดแต่คาแรคเตอร์ที่ดูไกลจากภาพลักษณ์เขาสุดๆ คาแร็คเตอร์ Fletcher Christian ของเขามีความหล่อ มาดแมนและอบอุ่นในคราวเดียวกันดูละมุนลงตัว ส่วน Charles Laughton นักแสดงชาวอังกฤษทำผลงานได้ดีตามมาตราฐานอยู่แล้ว เขาในบทบาทกัปตันซาดิสต์ สามารถทำให้คนดูรู้สึกต่อตัวละครดังกล่าวแบบทั้งเกลียดและกลัวโดยที่ไม่ต้องแสดงสีหน้าเยอะแยะอะไรมาก ส่วน Franchot Tone ดูหล่อน่ารักเสียจริง เขาดูมีความสดใสในบทบาททหารหนุ่มเลือดใหม่ ส่วนนักแสดงสมบทอีกคนที่ชอบคือ Herbert Mundin ที่รับบทเป็นคนบริการอาหารที่ดูมึนๆบ๊องๆ เป็นตัวตลกเบรคความเครียดในหนังได้ดีเลย 

Mutiny on the Bounty ถูกสร้างมาหลายครั้ง โดยใช้ชื่อและประเทศผู้ผลิตต่างกันออกไป เริ่มตั้งแต่ทางฝั่งออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ที่เป็นเจ้าแรกสร้างหนังดังกล่าวในปี 1916 โดยใช้ชื่อเดียวกัน ต่อมาในปี 1933 ทางค่ายหนังออสเตรเลียก็กลับมาสร้างหนังเรื่องนี้อีกครั้งภายในชื่อ In the Wake of the Bounty โดยมี Errol Flynn รับบท Fletcher Christian แต่หนังไม่ประสบความสำเร็จ โดยเมื่อดาราหน้าหล่อได้บอกใครๆว่าเขาเคยรับบทเดียวกับ Clark Gable สองปีก่อนหน้าก็ไม่มีใครเชื่อ สามทศวรรษถัดมาก็มี Mutiny on เวอร์ชั่น 1962 ออกมาโดยได้ Marlon Brando รับบท Fletcher Christian และ Trevor Howard นักแสดงชาวอังกฤษรับบทกัปตัน Bligh ซึ่งหนังได้กระแสตอบรับไปทางลบทั้งคำวิจารณ์และรายได้ อย่างไรก็ตามหนังได้เข้าชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ต่อมาในปี 1984, ก็มีเวอร์ชั่นใหม่ออกมาในชื่อ The Bounty โดยมี Mel Gibson รับบท Fletcher Christian และ Anthony Hopkins รับบทกัปตัน Bligh และหนังเวอร์ชั่นล่าสุดนี้น่าจะตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และแสดงมุมมองแง่บวกต่อตัวละคร Bligh มากกว่าเวอร์ชั่นเก่า

หนังมีจำหน่ายในร้านค้าออนไลน์และมีบรรยายไทยค่ะ

____________________________________

ขอบคุณที่อ่านและติดตามค่ะ
Classic Reviewer


นักแสดง

ใส่ความเห็น