The Good Earth (1937)

รีวิวหนังดราม่าทรหด เล่าเรื่องราวชีวิตอันลำบากตราตรำของชาวนาและภรรยาชาวจีนในช่วงยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1, The Good Earth (1937) กำกับโดย Sidney Franklin นำแสดงโดย Paul Muni, Luise Rainer และ Walter Connolly เป็นต้น หนังเรื่องนี้มีหลายประเด็นให้พูดถึง ไม่ว่าจะเป็นธีมของหนังที่พูดถึงค่านิยมประเพณีครอบครัวจีน, การนำนักแสดงผิวขาวรับบทเป็นตัวละครเชื้อชาติจีน และการคว้าออสการ์นำหญิงสองปีซ้อนติดต่อกันของ Luise Rainer ในวัยไม่เกิน 30 ปี

The Good Earth (1937) เล่าเรื่องราวชีวิตสุดดราม่าของชาวนา, Wang Lung (Paul Muni) ตั้งแต่วันแรกที่เขาแต่งงานกับ O-Lan (Luise Rainer) อดีตทาสจาก The Great House อันเป็นที่พักอาศัยของครอบครัวมั่งคั่งและเป็นผู้นำในหมู่บ้าน เขาและเธอตรากตรำทำงานอย่างหนักเพื่อวันข้างหน้า แต่ชีวิตกลับเล่นตลกกับพวกเขาเมื่อทั้งสองต้องเผชิญช่วงเวลาขาลงที่ต่ำที่สุดโดยการขโมย เพื่อประทังชีพ และสูงที่สุดเมื่อประเทศเปลี่ยนมือ ความร่ำรวยทำให้ Wang Lung ซื้อ The Great House และหลงลืม O-Lan เขาแต่งหญิงที่สาวและสวยกว่าเธอเข้ามาในบ้าน สุดท้ายแล้ว Wang Lung จะเรียนรู้บทเรียนต่างๆในชีวิตหรือไม่? 

____________________________________

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากนวนิยายในชื่อเดียวกันของ Pearl S. Buck (เจ้าของรางวัลนักเขียนโนเบล และพูลิตเซอร์) โดยเธอผู้นี้เคยมีประสบการณ์การไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศจีนจริงๆ ตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงช่วงวัยกลางคน โดยจุดเด่นของตัวเนื้อหานั้นมีการบรรยายชีวิตความเป็นอยู่, วัฒนธรรม และค่านิยมของคนในประเทศจีนได้อย่างละเอียดยิบ และในตัวหนังเองนั้นก็สามารถถ่ายทอดรายละเอียดออกมาได้น่าประทับใจ โดยรวม The Good Earth เป็นหนังสะท้อนสังคมให้เห็นถึงความสำคัญของความเป็นครอบครัว, ศีลธรรม, ความขัดแย้งทางชนชั้น และค่านิยมผู้หญิง ผ่านการตอบสนองของตัวละครในเรื่องที่ได้เผชิญแต่ละเหตุการณ์ต่างๆ นอกจากนี้หนังยังได้โชว์ปรัชญาแนวคิดของสังคมจีนที่อยากให้ทุกคนดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย อย่าให้ความโลภมาครอบงำจิตใจ และขอบคุณต่อแผ่นดินท้องนาอันเป็นแหล่งทำมาหากิน 

ทั้งที่เป็นหนังที่ดี ไม่ว่าจะเนื้อหา, ฉาก, คอสตูม ฯ แต่ทีมนักแสดงกลับเป็นจุดด่างพร้อยให้คนโจมตี เนื่องจากหนังใช้ดาราชาติตะวันตกรับบทนำเป็นคนเอเชีย แล้วเอาคนเอเชียมารับบทตัวประกอบแทน?! แน่นอนว่าคนดูรู้สึกผิดที่ผิดทาง และโชว์ให้เห็นว่ามีการเหยียดเชื้อชาติในโลกฮอลลิวู้ดแบบกรายๆ ยิ่งในกรณีบท O-Lan ที่ Luise Rainer เล่นนำ ยิ่งถูกวิพากย์วิจารณ์เยอะ เพราะทางค่ายสามารถมอบบทนี้ให้แก่ Anna May Wong นักแสดงเชื้อสายจีนแท้ๆมาแสดงนำได้ อย่างไรก็ตามหนังถูกสร้างเมื่อ 85 ปีที่แล้ว ความเท่าเทียมทางเชื้อชาติยังไม่ถูกตระหนักรู้ ค่ายเองต้องการผลิตหนังที่มั่นใจว่าจะขายออก เพราะด้วยความที่ว่าทุ่มทุนสร้างไปมากโข จึงเพลย์เซฟเลือกสตาร์เบอร์ใหญ่ที่ชัวร์ๆว่าจะขายได้มาแสดงนำแทน และสตาร์เบอร์ใหญ่ที่ว่าก็คือ Paul Muni และ Luise Rainer สองนักแสดงที่พึ่งคว้าออสการ์นำหญิงชายจากปีก่อน!

หากมองวิธีคิดของคนสร้างหนังจากปัจจัยที่ต้องการให้หนังขายออกแล้ว การเลือกพระเอก Scarface อย่าง Paul Muni มาแสดงนำ เรียกได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่เฉียบแหลมของทางค่ายเสียจริง เพราะเขาเป็นอัจฉริยะทั้งด้านการแสดงและแปลงโฉม และปีที่แล้วเจ้าตัวพึ่งคว้าออสการ์จากบทบาท Louis Pasteur ในหนังชีวประวัติ  The Story of Louis Pasteur (1936) โดยนักแสดงชายผู้นี้ทุ่มเททั้งงานเมคอัพและการแสดง เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว บทบาทชาวนา Wang Lung ในเรื่องนี้ Paul Muni เองก็ทำได้ดีตามมาตราฐาน ผิดกลับกรณีของ Luise Rainer ที่เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดูแล้วต้องขมวดคิ้วว่า นี่หรอคือผลงานการแสดงที่ได้รับออสการ์นำหญิง? ตัวเราไม่เคยอ่านหนังสือบทประพันธ์ดั้งเดิม จึงไม่รู้ว่าผู้เขียนบรรยายลักษณะตัวละคร O-Lan ออกมาอย่างไร แต่ที่แน่ๆคือ คาแรคเตอร์ของตัวละครนี้จะต้องเป็นเมียในอุดมคติ-เป็นช้างเท้าหลังให้สามี และเป็นแม่ที่ดีให้กับลูกๆ Luise Rainer ถ่ายทอดบทบาทดังกล่าวได้แบบ..ว่าไงดีล่ะ จะว่าเล่นดี หรือเล่นเยอะเกินไปนะ? เจ้าหล่อนแสดงบทบาท O-Lan ได้แบบเหนื่อยล้าขั้นสุด(เอ็กตรีมจนดูเกินจริงไปหน่อย) จนคนดูอย่างเราเหนื่อยแทน แต่ในทางกลับกันตัวละครนี้ก็มีสเน่ห์แบบแปลกๆ อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้า Anna May Wong เล่นบทนี้จะถ่ายทอดตัวละครนางเอกออกมาอย่างไรกันนะ ด้านเมคอัพของนักแสดงผิวขาวที่ต้องเปลี่ยนผิวเหลืองไม่ได้ดูขัดหูขัดตาขนาดนั้น พอถูๆไถๆไปได้อยู่อาจจะเพราะการที่หนังเป็นภาพขาวดำ ช่วยกลบเกลื่อนร่องรอย อย่างไรก็ตามมีนักแสดงเชื้อชาติจีนรับบทรอง เช่น บทอาสะใภ้ของพระเอก, บทลูกชายคนโต, ลูกชายคนรอง ซึ่งก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก 

โดยรวมเป็นหนังที่ได้อีกรสชาติในการรับชม เหมือนได้ดูหนังฮอลลิวู้ดในธีมโลกตะวันออก เอ๊ะยังไงดี?! ไม่ค่อยจะได้เห็นหนังคลาสสิกที่ทำเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศอื่นกันเท่าไหร่ อีกอย่างทางค่ายเจ้าของหนังได้ลงทุนทำฉากให้ดูสมจริงที่สุด ซึ่งถือว่าทุ่มเงินไปเยอะอยู่ The Good Earth สามารถรับชมได้ทางออนไลน์ค่ะ

____________________________________

ขอบคุณที่อ่านและติดตามค่ะ
Classic Reviewer


นักแสดง

ใส่ความเห็น