The Maltese Falcon (1941)

รีวิวหนังนัวร์-อาชญากรรมสุดคลาสสิก, The Maltese Falcon (1941) เล่าเรื่องราวของนักสืบเอกชนที่ได้รับการว่าจ้างตามหาคนธรรมดาๆ แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรม และตามหารูปปั้นเหยี่ยวมูลค่ามหาศาล หนังเรื่องนี้ได้ John Huston นั่งแท่นกำกับครั้งแรก อีกทั้ง Humphrey Bogart เองก็เริ่มโด่งดังในฐานะนักแสดงนำ ร่วมด้วยนักแสดงชื่อดังเช่น Mary Astor, Peter Lorre, Sydney Greenstreet, และ Elisha Cook Jr. 

The Maltese Falcon (1941) เล่าเรื่องราวของ Sam Spade (Humphrey Bogart) นักสืบเอกชนที่ต้องเข้าไปพัวพันกับเหล่าผู้ร้าย (Peter Lorre และ Sydney Greenstreet) ในการตามหารูปปั้นเหยี่ยวทองคำมูลค่ามหาศาลที่หายสาบสูญ โดยเริ่มแรกเขาได้ถูกจ้างวานจาก Ruth Wonderly (Mary Astor) สาวสวยที่ขอให้ตามหาน้องสาวที่คาดว่าหายตัวไปกับเพื่อนชาย นักสืบชายได้มอบหมายหน้าที่ให้คู่หูของเขาไปตามสืบ แต่คืนนั้นเองคู่หูของเขากลับถูกฆ่าตาย

____________________________________

หนังนัวร์สุดคลาสสิกนี้สร้างจากนิยายของ Dashiell Hammet ตีพิมพ์ในปี 1930 ในชื่อเดียวกัน ครั้นพอนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ก็ได้ John Huston มานั่งแท่นกำกับและเขียนบทภาพยนตร์เอง จุดเด่นของ The Maltese Falcon คือเป็นหนังนัวร์ยุคบุกเบิก และเป็นหนึ่งในหนังแจ้งเกิดในฐานะนักแสดงนำอย่างเต็มตัวของ Humphrey Bogart หลังจากที่ก่อนหน้านี้มักจะรับแต่บทรอง หรือบทมาเฟียตัวร้ายเป็นประจำ รวมถึง Sydney Greenstreet นักแสดงชาวอังกฤษก็ได้แจ้งเกิดในโลกภาพยนตร์อย่างเป็นทางการในวัย 61 ปี โดยก่อนหน้านี้ทำงานในวงการละครเวทีเป็นหลัก นักแสดงรุ่นป๋าพกพาความสามารถฉายแววบนม้วนฟิล์มเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ส่งผลให้เขามีงานอื่นๆตามมาในภายหลัง เช่น Casablanca, Across the Pacific เป็นต้น 

สิ่งหนึ่งที่ยกระดับให้ The Maltese Falcon กลายเป็นหนังนัวร์ที่ดีคือทุกตัวละครมีเลเยอร์ลึกลับซับซ้อน มีเลือดเนื้อความเป็นมนุษย์ มีความรัก, โลภ, โกรธ, หลง, สุข เศร้าเสียใจ พวกเขาแสดงออกมาในแบบที่แตกต่างกันออกไป เช่น ตัวละครพระเอก, Sam Spade เป็นแนวคนเทาๆ Anti-Hero ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก แต่สุดท้ายก็เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง, ฝั่งตัวร้ายมีคาแรคเตอร์ที่ค่อนข้างดูเป็นมนุษย์จริงๆ พวกเขาจริงใจต่อความรู้สึกตัวเอง สังเกตได้จากฉากที่ตัวละครของ Sydney Greenstreet บรรยายความเป็นมาของรูปปั้นเหยี่ยวให้พระเอกฟัง เขาเล่าได้พร้อมกับความรู้สึกหลงไหล เคลิบเคลิ้ม และเมื่อทั้งตัวละครของ Sydney และ Peter Lorre เผชิญความผิดหวังเสียใจก็ไม่ลังเลที่จะแสดงมันออกมาตรงๆ ด้วยการ กรีดร้อง โมโห เป็นฉากที่เราลืมไม่ลงเลยโดยเฉพาะ Peter Lorre ที่ทำออกมาได้ขโมยซีนสุดๆ 

ธีมของหนังมีหลายเรื่องให้พูดถึง แต่สิ่งที่เด่นชัดออกมาเลยคือความซื่อสัตย์และการหลอกลวง เพราะตลอดทั้งเรื่องนั้นเหล่าตัวละครทุกตัวไม่อาจปฏิเสธความต้องการที่จะครอบครองนกเหยี่ยวมอลทีสมูลค่ามหาศาลจนก่ออาชญากรรมร้ายแรง พวกเขาซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อนกเหยี่ยวและพร้อมล่อลวงอีกฝ่ายเข้าสู่หายนะ และตัวเหยี่ยวเองนั้นมีมูลค่ามหาศาลจริงๆ หรือเพียงเป็นเครื่องหมายความโลภที่ล่อหลอกให้คนเข้ามาติดกับ? ทั้งนี้โดยรวมหนังตั้งคำถามว่ามนุษย์เราเมื่อเจอความอยากความโลภเข้าครอบงำเราจะสามารถยืนหยัดบนความถูกต้อง รักษาเกียรติยศจรรยาบรรณหน้าที่ที่ดีของตัวเองได้หรือไม่เมื่ออยู่ในโลกของกระบวนการยุติธรรมที่บกพร่อง? หากใครชอบหนังนัวร์ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง The Maltese Falcon (1941) มีจำหน่ายทางร้านค้าออนไลน์ บรรยายไทยค่ะ

____________________________________

ขอบคุณที่อ่านและติดตามค่ะ
Classic Reviewer


ผู้กำกับ

นักแสดง

ใส่ความเห็น