Bell, Book and Candle (1958)

รีวิวหนังรักรอมคอมสำหรับเทศกาลคริสต์มาส เล่าเรื่องราวของแม่มดสาวที่แอบชอบชายธรรมดา จึงร่ายคาถาให้เขาตกหลุมรัก เมื่อทุกอย่างไปด้วยสวยแต่ความรักที่ใช้เล่ห์กลนี้จะยั่งยืนหรือไม่? Bell, Book and Candle (1958) กำกับโดย Richard Quine และนำแสดงโดยคู่พระ-นางแห่ง “Vertigo” James Stewart และ Kim Novak พร้อมด้วยนักแสดงสมทบชื่อดัง Jack Lemmon และ Elsa Lanchester 

Bell, Book and Candle (1958) เป็นเรื่องราวของ Gillian Holroyd (Kim Novak) แม่มดสาวที่แฝงตัวบนโลกมนุษย์โดยอาศัยอยู่ร่วมกับป้า Queenie (Elsa Lanchester) และ Nicky (Jack Lemmon) พี่ชายนักดนตรีในกรุงนิวยอร์ก Gillian แอบชอบชายเพื่อนบ้าน, Shepherd Henderson (James Stewart) จึงนึกสนุกร่ายคาถาให้เขาตกหลุมรักเธอ และเมื่อทุกอย่างเกือบจะดำเนินไปตามเกม Nicky พี่ชายตัวดีก็ดันไปร่วมมือกับ Sidney Redlitch (Ernie Kovacs) นักเขียนที่ Shep อยากร่วมงานด้วย ในการทำหนังสือเกี่ยวกับแม่มดในกรุงนิวยอร์ก Gillian เกรงว่า Shep จะรู้ความจริง รวมถึงตัวเธอเองที่ดันตกหลุมรักเขาและกำลังจะสูญเสียอำนาจการเป็นแม่มดไปตลอดกาล

____________________________________

ทีแรกไม่เข้าใจว่าทำไมภาพยนตร์จึงชื่อ “Bell, Book and Candle” สิ่งของสามสิ่งนี้เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่อง? พอดูหนังไป…เขาเฉลยว่า กระดิ่ง หนังสือ และเทียน คือส่ิงของสามอย่างที่เราใช้ในพิธีกรรมการไล่ผี เริ่มจากสั่นกระดิ่ง, เปิดหนังสือ และจุดเทียน และพอจบพิธีเราก็สั่นกระดิ่งอีกครั้ง ปิดหนังสือ และดับเทียน เรียกได้ว่าเจ๋งมาก ตั้งชื่อฉลาดและเรียบง่าย เดิมที “Bell, Book and Candle” เป็นละครบรอดเวย์ที่มีจัดแสดงโชว์ในช่วงต้นยุค 50’s โดยมี Rex Harrison และ Lilli Palmer (ภรรยา ณ ขณะนั้น) แสดงนำ ก่อนจะถูกซื้อลิขสิทธ์นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์

Bell, Book and Candle เป็นหนังรอมคอม น่ารักดูง่าย มีเนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน จุดที่หนังทำได้ดี คือการนำความเป็นแฟนตาซี เก็บรายละเอียดความความเชื่อเรื่องแม่มดจากในตำราโบราณมาใส่ลงในตัวหนัง สิ่งเหล่านี้สะท้อนออกมาในเนื้อเรื่อง เช่น ความเชื่อเรื่องแม่มดจะไม่มีน้ำตา แม่มดมักมีแมวประจำตน เป็นต้น นอกจากนี้จุดเด่นของหนังคือการกำกับศิลป์ ไม่ว่าจะเป็นคอสตูมเอย พร็อพเอย ฉากหลังเอย เรียกได้ว่าอลังการสวยงามหรูหรามากๆ รวมไปถึงการใส่เอฟเฟกต์สีบนลงตัวฟิลม์ให้ออกเซอร์เรียลนิดๆในฉากที่ตัวละครของ Kim Novak ใช้เจ้าแมวเสกคาถาใส่ตัวละครของ Jimmy แม่มดนางนี้คือแบบสวยสะกดหลอกให้คนมาติดกับ ฟีลเหมือนได้ดู Vertigo ภาคสอง

ด้านการแสดง มองว่าทุกคนรับผิดชอบบทบาทที่ตัวเองได้รับเป็นอย่างดี และทุกคนล้วนเหมาะกับบทบาทที่ตนได้รับ ไม่ว่าจะเป็น Kim Novak ที่เหมาะสมกับการเป็นแม่มดเจ้าเสน่ห์ชวนหลงไหล เสื้อผ้าหน้าผมจัดเต็ม บวกกับเสียงพูดที่ดูเซ็กซี่เย้ายวน, Jack Lemmon รับบทเป็นพ่อมดพี่ชายนางเอกที่เล่นได้แพรวพราวธรรมชาติมากๆ ถึงจะเป็นบทรองแต่เป็นที่น่าจดจำ แม้ว่าตัวเขาเองจะไม่ได้แฮปปี้กับผลงานดังกล่าวก็ตาม Elsa Lanchester หรือภรรยาในชีวิตจริงของดาวร้าย Charles Laughton รับบทป้าแม่มดของทั้งสองพี่น้อง ตัวละครนี้มีความเพี้ยนและน่ารักสดใสมีชีวิตชีวาสุดๆ ทั้งนี้ผิดกับพระเอกของเรา, James Stewart ที่รู้สึกว่าต่อให้เล่นดีเต็มที่กับบทแค่ไหน ก็อดรู้สึกขัดหูขัดตาเสียจริง จิมมี่ดูแก่เกินบทไปมาก ครั้นที่หนังกำลังถ่ายทำเขาก็อยู่ในช่วงวัย 50 ไปแล้ว และตัวนักแสดงชายขวัญใจมหาชนก็ทราบดีถึงปัญหาปัจจัยทางด้านอายุของตนจึงตัดสินใจไม่รับบทพระเอกแนวหนังรักรอมคอมอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม Kim Novak กลับให้ความเห็นตรงข้าม เพราะเธอชอบทำงานพ่อจิมมี่สุดๆ เรียกได้ว่าเป็นนักแสดงชายคนโปรดที่อยากร่วมงานด้วยต่อไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่าเคมีพวกเขาเข้ากันมากๆ ต้องบอกไว้ก่อนว่า Bell, Book and Candle ออกฉายหลัง Vertigo ประมาณครึ่งปี ในมุมของเรามองว่าเคมีของทั้งคู่คลิ๊กกันมากกว่าใน Vertigo พอเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ตัวละครผู้หญิงรุ่นลูกใช้คาถาเสกใส่ให้ผู้ชายรุ่นพ่อหลง คือแบบดูไม่ค่อยน่าจะใช่นะ นอกจากนี้อีกตัวละครสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเจ้าแมววิเชียรมาศหรือเจ้า Pyewacket เป็นสีสันตัวละครสำคัญเลยก็ว่าได้ อันที่จริงเจ้านี่มีสตั๊นท์ภายในเรื่องมากถึงสิบกว่าตัวเชียวนะ!

ถ้าใครชอบเคมีของ James Stewart และ Kim Novak จาก Vertigo และรู้สึกว่าตอนจบของหนังนั้นมีความน่าหงุดหงิดรำคาญใจ (disturbing) ก็มาดูภาพยนตร์เรื่องนี้ต่อแก้เซ็งแก้ขัดได้นะ เพราะ Bell, Book and Candle เป็นหนังรอมคอมจ๋าๆ ดราม่าหน่อยๆ ดูแล้วอบอุ่นสบายใจ อีกทั้งยังมีความแฟนตาซีเป็นลูกเล่นเพิ่มเข้ามา บวกด้วยฉาก พร็อพ คอสตูมคือสวยงามหรูหรา ฟีลกู๊ด ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถรับชมได้ในยูทูปเลยค่ะ 

ภายหลัง Bell, Book and Candle (1958) กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับละครซิทคอมชื่อดังอย่าง Bewitched (1964) 

____________________________________

ขอบคุณที่อ่านและติดตามค่ะ
Classic Reviewer


นักแสดง

ใส่ความเห็น