Fred Astaire – เฟรด แอสแตร์


Fred Astaire ผู้เป็นทั้งนักแสดง นักร้อง นักเต้น นักดนตรี รวมไปถึงนักออกแบบไลน์การเต้น โด่งดังอย่างมากในช่วงปี 1930’s เขาเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการหนังมิวสิคคัลเลยก็ว่าได้ มีผลงานราวๆ 31 ชิ้น ซึ่งมีรางวัลการันตีคุณภาพ นอกจากนี้นักแสดงชายยังเป็นไอคอนทางด้านแฟชั่นอีกด้วย


Fred Astaire มีชื่อเต็มๆว่า Frederick Austerlitz โดยมีพ่อสืบเชื้อสายจากออสเตรียและแม่เป็นอเมริกันที่มีเชื้อสายมาจากทางยุโรปเช่นเดียวกัน เขาเป็นน้องชายคนเล็กและมีพี่สาว Adele, ที่ฉายแววเก่งทางด้านดนตรีตั้งแต่ยังเล็กๆ ซึ่งนั้นทำให้ผู้เป็นแม่พยายามทุ่มเทส่งเสริมเขาและพี่สาวเต็มที่ โดยหวังลึกๆว่าในอนาคตสองหน่อนี้จะนำพาครอบครัวไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น เนื่องจากขณะนั้นการงานของฝ่ายผู้เป็นพ่อยังไม่มั่นคงเท่าไหร่นัก แรกๆ Fred ปฏิเสธที่จะเรียนดนตรีและแกล้งทำท่าเลียนแบบ Adele เสมอๆ แต่กลายเป็นว่าความสารถของเขานั้นไม่ได้ตามหลังพี่สาวเลย Fred ได้เรียนคลาสดนตรี อาทิ เปียนโน, คลาริเน็ต, แอคคอเดียน ต่อมาสองพี่น้องเข้าเรียนคลาสเต้น และออกแสดงโชว์คู่ตามงานต่างๆ โดยมีแม่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล

พอเข้าสู่วัยที่โตขึ้น ทั้ง Adele และ Fred ได้เข้าร่วมแสดงบรอดเวย์ทั้งคู่ แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายของ Fred จะดูเอาจริงเอาจังกว่าฝ่ายของพี่สาว เขาฉายแววความเก่งออกมาเรื่อยๆ จนเหนือกว่า Adele และสุดท้ายพวกเขาตัดสินใจเดินกันไปคนละทิศเนื่องจากมีมุมมองความคิดเห็นไม่ตรงกัน ฝ่ายพี่สาวตัดสินใจแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัว แต่ Fred ยังเดินหน้ากับการเต้นต่อไปและอีกจุดมุ่งหมายของเขาคือฮอลลิวู้ด

Fred Astaire มาแจ้งเกิดในฮอลลิวู้ดใน The Gay Divorcee (1934) หนังมิวสิคัลร่วมกับ Ginger Rogers ซึ่งเคมีการเต้นของพวกเขานั้นดีสุดๆ ส่งผลให้มีผลงานร่วมกันต่อๆมากว่าสิบเรื่อง และหนังของพวกเขานั้นเรียกได้แทบว่าพลิกวงการจอเงินอีกด้วย ผลงานชื่อดังของเขาอาทิ Top Hat (1935), Swing Time (1936), Shall We Dance (1937), The Band Wagon (1953), Royal Wedding (1951), Funny Face (1957) และอีกมากมาย

ทางด้านชีวิตส่วนตัว Fred Astaire มีเพื่อนสนิทที่เป็นสตาร์ดังๆอยู่หลายคนอาทิ David Niven, Randolph Scott, Clark Gable, และ Gregory Peck โดยเขาเป็นที่น่ารักอบอุ่นใจดีในสายตาของเพื่อนๆ นอกจากนี้ Fred ไม่ค่อยชอบงานสังคมเท่าไหร่นัก เขามักใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัวทำกิจกรรมต่างๆด้วยกัน เช่น ขี่ม้า, ตีกลอง, แต่งเพลง หรือเล่นกอล์ฟ พอเข้าช่วงวัยปลาย 70 ดาราชายผู้นี้ยังคงแข็งแรงเหมือนหนุ่มๆ เขาหันมาเล่นสเก็ตบอร์ดจนได้สิทธิสมาชิกตลอดชีพของสมาคมนักเก็ตบอร์ดแห่งชาติ

Fred Astaire แต่งงานสองรอบ รอบแรกเขาแต่งกับ Phyllis Potter สาวไฮโซ โดยครองรักกันอย่างยาวนานถึง 25 ปีจนถึงฝ่ายภรรยาถึงแก่กรรมในปี 1954 ซึ่งการจากไปของเจ้าหล่อนทำให้เขานั้นเศร้าเสียใจอย่างมาก อย่างไรก็ตามในปี 1980 หรือวัย 81 ปีของเขา, Fred ตัดสินใจแต่งงานอีกครั้งกับ Robyn Smith นักกีฬาขี่ม้าที่เด็กกว่าถึง 45 ปีทั้งคู่อยู่ด้วยกันจน Fred ถึงแก่กรรมในวัย 88 ปีจากอาการปอดอักเสบ/ปวดบวม ในปี 1999 AFI หรือ the American Film Institute ยกตำแหน่งให้เขาเป็นหนึ่งในรายชื่อสุดยอดนักแสดงชายยุคทองแห่งฮอลลีวู้ดใน ลำดับที่ 5

Fred Astaire เป็นแรงบรรดาลใจให้กับดารารุ่นน้องอย่าง Gene Kelly หรือคนในวงการหนังเพลงอีกหลายๆรุ่นถัดมา Sammy Davis, Jr., Michael Jackson, Gregory Hines, นักแสดงหญิงชาวอินเดีย Madhuri Dixit รวมไปถึงนักออกแบบท่าเต้น Mikhail Baryshnikov, George Balanchine, Jerome Robbins และนักบัลเล่ต์ Rudolf Nureyev


Fred Astaire ในบทความต่างๆ