![](https://classicreviewer.wordpress.com/wp-content/uploads/2021/10/2021_6_classicactor_fred-astaire.jpg?w=723)
Fred Astaire ผู้เป็นทั้งนักแสดง นักร้อง นักเต้น นักดนตรี รวมไปถึงนักออกแบบไลน์การเต้น โด่งดังอย่างมากในช่วงปี 1930’s เขาเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการหนังมิวสิคคัลเลยก็ว่าได้ มีผลงานราวๆ 31 ชิ้น ซึ่งมีรางวัลการันตีคุณภาพ นอกจากนี้นักแสดงชายยังเป็นไอคอนทางด้านแฟชั่นอีกด้วย
Fred Astaire มีชื่อเต็มๆว่า Frederick Austerlitz โดยมีพ่อสืบเชื้อสายจากออสเตรียและแม่เป็นอเมริกันที่มีเชื้อสายมาจากทางยุโรปเช่นเดียวกัน เขาเป็นน้องชายคนเล็กและมีพี่สาว Adele, ที่ฉายแววเก่งทางด้านดนตรีตั้งแต่ยังเล็กๆ ซึ่งนั้นทำให้ผู้เป็นแม่พยายามทุ่มเทส่งเสริมเขาและพี่สาวเต็มที่ โดยหวังลึกๆว่าในอนาคตสองหน่อนี้จะนำพาครอบครัวไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น เนื่องจากขณะนั้นการงานของฝ่ายผู้เป็นพ่อยังไม่มั่นคงเท่าไหร่นัก แรกๆ Fred ปฏิเสธที่จะเรียนดนตรีและแกล้งทำท่าเลียนแบบ Adele เสมอๆ แต่กลายเป็นว่าความสารถของเขานั้นไม่ได้ตามหลังพี่สาวเลย Fred ได้เรียนคลาสดนตรี อาทิ เปียนโน, คลาริเน็ต, แอคคอเดียน ต่อมาสองพี่น้องเข้าเรียนคลาสเต้น และออกแสดงโชว์คู่ตามงานต่างๆ โดยมีแม่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล
พอเข้าสู่วัยที่โตขึ้น ทั้ง Adele และ Fred ได้เข้าร่วมแสดงบรอดเวย์ทั้งคู่ แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายของ Fred จะดูเอาจริงเอาจังกว่าฝ่ายของพี่สาว เขาฉายแววความเก่งออกมาเรื่อยๆ จนเหนือกว่า Adele และสุดท้ายพวกเขาตัดสินใจเดินกันไปคนละทิศเนื่องจากมีมุมมองความคิดเห็นไม่ตรงกัน ฝ่ายพี่สาวตัดสินใจแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัว แต่ Fred ยังเดินหน้ากับการเต้นต่อไปและอีกจุดมุ่งหมายของเขาคือฮอลลิวู้ด
Fred Astaire มาแจ้งเกิดในฮอลลิวู้ดใน The Gay Divorcee (1934) หนังมิวสิคัลร่วมกับ Ginger Rogers ซึ่งเคมีการเต้นของพวกเขานั้นดีสุดๆ ส่งผลให้มีผลงานร่วมกันต่อๆมากว่าสิบเรื่อง และหนังของพวกเขานั้นเรียกได้แทบว่าพลิกวงการจอเงินอีกด้วย ผลงานชื่อดังของเขาอาทิ Top Hat (1935), Swing Time (1936), Shall We Dance (1937), The Band Wagon (1953), Royal Wedding (1951), Funny Face (1957) และอีกมากมาย
![](https://classicreviewer.wordpress.com/wp-content/uploads/2016/04/600full-the-gay-divorcee-cover.jpg)
![](https://classicreviewer.wordpress.com/wp-content/uploads/2016/04/poster20-20top20hat_01.jpg)
![](https://classicreviewer.wordpress.com/wp-content/uploads/2016/04/poster-band-wagon-the_01.jpg)
![](https://classicreviewer.wordpress.com/wp-content/uploads/2021/10/funny-face-1957.jpg)
ทางด้านชีวิตส่วนตัว Fred Astaire มีเพื่อนสนิทที่เป็นสตาร์ดังๆอยู่หลายคนอาทิ David Niven, Randolph Scott, Clark Gable, และ Gregory Peck โดยเขาเป็นที่น่ารักอบอุ่นใจดีในสายตาของเพื่อนๆ นอกจากนี้ Fred ไม่ค่อยชอบงานสังคมเท่าไหร่นัก เขามักใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัวทำกิจกรรมต่างๆด้วยกัน เช่น ขี่ม้า, ตีกลอง, แต่งเพลง หรือเล่นกอล์ฟ พอเข้าช่วงวัยปลาย 70 ดาราชายผู้นี้ยังคงแข็งแรงเหมือนหนุ่มๆ เขาหันมาเล่นสเก็ตบอร์ดจนได้สิทธิสมาชิกตลอดชีพของสมาคมนักเก็ตบอร์ดแห่งชาติ
Fred Astaire แต่งงานสองรอบ รอบแรกเขาแต่งกับ Phyllis Potter สาวไฮโซ โดยครองรักกันอย่างยาวนานถึง 25 ปีจนถึงฝ่ายภรรยาถึงแก่กรรมในปี 1954 ซึ่งการจากไปของเจ้าหล่อนทำให้เขานั้นเศร้าเสียใจอย่างมาก อย่างไรก็ตามในปี 1980 หรือวัย 81 ปีของเขา, Fred ตัดสินใจแต่งงานอีกครั้งกับ Robyn Smith นักกีฬาขี่ม้าที่เด็กกว่าถึง 45 ปีทั้งคู่อยู่ด้วยกันจน Fred ถึงแก่กรรมในวัย 88 ปีจากอาการปอดอักเสบ/ปวดบวม ในปี 1999 AFI หรือ the American Film Institute ยกตำแหน่งให้เขาเป็นหนึ่งในรายชื่อสุดยอดนักแสดงชายยุคทองแห่งฮอลลีวู้ดใน ลำดับที่ 5
Fred Astaire เป็นแรงบรรดาลใจให้กับดารารุ่นน้องอย่าง Gene Kelly หรือคนในวงการหนังเพลงอีกหลายๆรุ่นถัดมา Sammy Davis, Jr., Michael Jackson, Gregory Hines, นักแสดงหญิงชาวอินเดีย Madhuri Dixit รวมไปถึงนักออกแบบท่าเต้น Mikhail Baryshnikov, George Balanchine, Jerome Robbins และนักบัลเล่ต์ Rudolf Nureyev
Fred Astaire ในบทความต่างๆ