Top 12 Films of Audrey Hepburn

นักแสดงสาวชาวบริติช Audrey Hepburn เป็นไอคอนทางด้านการแสดงและแฟชั่น ออเดรย์แจ้งเกิดจากการรับบทเป็นเจ้าหญิงแอนน์ใน Roman Holiday (1953) และจากผลงานเรื่องนี้ทำให้เธอเป็นนักแสดงคนแรกที่คว้าสามรางวัลรวดจากเวทีออสการ์, Golden Globe และ BAFTA Award ในเรื่องเดียวกัน

ตลอดชีวิตการทำงานของเธอ Hepburn ได้รับรางวัลเยอะแยะจากหลายสถาบัน ซึ่งคนส่วนน้อยมากๆที่จะได้รับรางวัลมากมายจากหลายสถาบันขนาดนี้ The American Film Institute (AFI) จัดอันดับให้เธอเป็นดาราหญิงยุคคลาสสิค อันดับ 3

หนังที่คัดเลือกมาแนะนำนั้นส่วนใหญ่มีบรรยายไทยนะคะ และมีส่วนหนึ่งเป็นบรรยายอังกฤษด้วย หนังสามารถหาซื้อได้ตามออนไลน์ และส่วนใหญ่มีบรรยายไทยค่ะ


Roman Holiday (1953) | Director: William Wyler
Romance – Comedy


ณ กรุงโรม หลังจากตารางงานที่แน่นเอี๊ยดระหว่างทัวร์ยุโรป เจ้าหญิง Ann (Audrey Hepburn) พัดหลงออกจากที่พัก นอนสลบอยู่ข้างทางและพบเจอโดยนักข่าวชาวอเมริกัน Joe Bradley (Gregory Peck) เขาพาเธอกลับอพาร์ทเม้นของเขา และหวังจะใช้ผลประโยชน์จากเธอในการเขียนข่าวสัมภาษณ์แบบใกล้ชิด แต่ไหงๆกลับตกกระไดพลอยโจนหลงรักเจ้าหญิงเข้า


Sabrina (1954) | Director: Billy Wilder
Comedy – Drama – Romance


เรื่องราวดั่งกับเทพนิยายของ Sabrina Fairchild (Audrey Hepburn) ลูกสาวคนขับรถของบ้านมหาเศรษฐี Larrabee ที่ตกหลุมรักลูกชายคนเล็กของเจ้านายพ่อ, David เป็นเพลย์บอยและไม่เคยเห็นเธอในสายตา แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อเขาเจอ Sabrina ในสภาพสวยสง่าหลังเธอเรียนจบจากปารีส ทำให้เขาตกหลุมรักและเดินหน้าจีบเธอทันทีโดยลืมไปว่าตัวเองกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับครอบครัวเศรษฐีอีกฝ่ายอยู่ นั่นทำให้พี่ชายคนโต Linus (Humphrey Bogart) ผู้บ้างานตระหนักว่าถ้างานแต่งถูกยกเลิกขึ้นมา อาจมีผลกระทบไปถึงปัญหาธุรกิจระหว่างสองตระกูลจึงต้องหาทางขัดขวาง Sabrina


War and Peace (1956) | Director: King Vidor
Drama – Romance – War


ไม่กี่ปีก่อนการรุกรานของนาโปเลียน เหล่าชนชั้นสูงของรัสเชียต่างก็พบเจอกันเรื่องร้ายๆ กันทั้งนั้น Count Pierre Bezukhov (Henry Fonda) ชึ่งเป็นเพื่อนของเจ้าชาย Andrei Bolkonsky (Mel Ferrer) ได้รับมรดกจากพ่อที่ตายไป เขาเลือกแต่งงานกับสาวที่มีลับลมคมใน (Anita Ekberg) ในขณะเดียวกัน Bolkonsky ที่เสียภรรยาไปตอนกำลังคลอดลูกได้มีความรักครั้งใหม่กับ Natasha Rostova (Audrey Hepburn) ซึ่งมันเกิดขึ้นไม่นานก่อนเขาจะถูกเรียกตัวไปร่วมสงคราม


Funny Face (1957)  | Director: Stanley Donen
Comedy – Musical – Romance


เมื่อช่างภาพแฟชั่น Dick Avery (Fred Astaire) เกิดสนใจในความสวยของพนักงานร้านขายหนังสือ Jo Stockton (Audrey Hepburn), ที่เขาถ่ายติดโดยบังเอิญ Avery ชักชวนเธอให้มาเป็นนางแบบและเดินทางไกลไปถ่ายทำถึงฝรั่งเศส แรกเริ่มสาวน้อยปฏิเสธแต่ก็เปลี่ยนใจเหตุเพราะเธออยากไปพบกับโปรเฟสเซอร์ที่เธอนับถือ ระหว่างถ่ายทำเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข ทั้งสองตกหลุมรักกัน…แต่ก็ใช่ว่าความรักจะราบรื่นเสมอไป


Love in the Afternoon (1957) | Director: Billy Wilder
Comedy – Drama – Romance


เมื่อนักสืบเอกชน Claude Chavasse (Maurice Chevalier) ค้นพบว่าภรรยาของผู้ว่าจ้างคบชู้กับ Frank Flannagan (Gary Cooper) หนุ่มเพลย์บอยวัยกลางคน ตัวผู้ว่าจ้างจึงคิดจะฆ่า Frank แต่ Ariane (Audrey Hepburn) ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ Claude นั้นพยายามจะยับยั้งแผนการและช่วยชีวิตตัวเพลย์บอยใหญ่ ซึ่งลงเอยด้วยทั้งสองตกหลุมรักกันอย่างรวดเร็ว แต่ Ariane ไม่ยอมบอกชื่อของเจ้าหล่อน Frank จึงว่าจ้าง Claude เพื่อตามสืบเธอ โดยที่ไม่เอะใจเลยว่าภารกิจนี้คือการตามหาลูกสาวตัวเอง


30101

The Nun’s Story (1959) | Director: Fred Zinnemann
Drama


Gabrielle van der Mal (Audrey Hepburn) ลูกสาวของศัลยแพทย์ชื่อดังทิ้งชีวิตหรูหราเพื่อมาบวชเป็นชี โดยใช้นามว่าซิสเตอร์ Luke เจ้าหล่อนถูกส่งไปอยู่ในทวีปแอฟริกา และทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยแพทย์ Dr. Fortunati (Peter Finch) อย่างไรก็ตามการดำรงเป็นแม่ชีที่มาจากความตั้งใจนั้นก็เกิดความหวั่นไหว เมื่อพ่อของเธอถูกพวกนาซีฆ่าตาย ซิสเตอร์ Luke รู้ไม่มั่นคงต่อเป้าหมายที่เคยตั้งใจเอาไว้


Breakfast at Tiffany’s (1961) | Director: Blake Edwards
Comedy – Drama – Romance


เรื่องราวความรักของคนสองคนที่มุมมองชีวิตที่ต่างกัน แต่ต่างฝ่ายต่างดึงดูดเข้าหากัน Holly Golightly (Audrey Hepburn) เป็นหญิงสาวสวยที่ต้องการความสบายในชีวิต เธอจึงไขว่คว้าหาสามีแก่ที่รวยๆ ต่างกับเพื่อนบ้านร่วมอพาร์ทเม้นของเธอ Paul Varjak (George Peppard) เป็นนักเขียนไส้แห้งหน้าตาดี เขาได้รับการสนับสนุนจากหญิงเศรษฐีรุ่นใหญ่ แต่เขากลับอยากยืนด้วยตัวเองมากกว่า


Charade (1963) | Director: Stanley Donen
Comedy – Mystery – Romance


หลังจากหย่ากับ Charles อดีตสามี, Regina Lampert (Audrey Hepburn) หม้ายสาวถูกไล่ล่าเอาชีวิตจากชายสามคน ซึ่งต่างก็มีลักษณะแปลกและน่ากลัว แต่ละคนอ้างเหมือนๆกันว่าเป็นเพื่อนกับอดีตสามีพร้อมทั้งทวงสิ่งของปริศนาคืนจากเธอ – โดยสิ่งของที่ว่านั่นของที่ Charles ได้ขโมยมันไปจากพวกเขา Regina ไม่ได้รู้เห็นการกระทำอะไรด้วยบังเอิญได้รับการช่วยเหลือจากชายผู้หนึ่งที่ดูสุภาพอ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยปริศนา (Cary Grant)

รีวิวหนัง

Charade 1963

หนังสุดยอดเยี่ยมของ Hitchcock ที่เขาไม่เคยสร้าง เรื่องราวของชายปริศนาผู้พาหม้ายสาวหนีจากเหล่าผู้ร้าย…

อ่านต่อ

My Fair Lady (1964) | Director: George Cukor
Drama – Family – Musical


Henry Higgins (Rex Harrison) ศาสตราจารย์สัทศาสตร์ ตั้งเป้าหมายจะเปลี่ยนสาวบ้านนอกให้กลายเป็นหญิงสาวสังคมชั้นสูงโดยผ่านกระบวนการการออกเสียงและพูดให้ถูกหลัก หญิงสาวผู้ถูกเขาเลือกคือ Eliza Doolittle (Audrey Hepburn) เธอเป็นแม่ค้าขายของตามถนน กริยาวาจาและวางตัวมีความหยาบกระด้าง ศาสตราจารย์ Higgin ทุ่มเทเวลาาให้เจ้าหล่อน ไม่ว่าจะคอยดูแลตามประกบ จ้ำจี้จ้ำไชในการเรียนออกเสียง จนความสัมพันธ์ของทั้งสองได้งอกเงยขึ้นตามกาลเวลา


How to Steal a Million (1966) | Director: William Wyler
Comedy – Crime – Romance


เรื่องราวของครอบครัวนักต้มตุ๋นในกรุงปารีส Charles Bonnet (Hugh Griffith) คือนักสะสมศิลปะชื่อดังแต่เบื้องหลังเขาคือนักปลอมแปลงงานศิลปะชั้นยอดโดยนำมันไปวางขายเอากำไรสูง แต่ถึงคราวเคราะห์กรรมตามมาเยือน เมื่อเขาพลาดส่งงานปลอมแทนงานจริงให้กับพิพิธภัณฑ์ชื่อดังแห่งหนึ่งในปารีสนำไปจัดแสดง ถ้าผู้เชี่ยวชาญจับได้ว่าเป็นของปลอมต้องถึงคราวจบเห่แน่ๆ ดังนั้น Nicole (Audrey Hepburn) ลูกสาวของของจึงต้องจ้างวาน Simon Dermott (Peter O’Toole) แมวขโมยตีนเบาเพื่อไปจิ๊กของกลางกลับมาก่อนที่จะสายเกินไป

รีวิวหนัง

How to Steal a Million (1966)

หนังโจรกรรมในรูปแบบรอม-คอมน่ารักกุ๊งกิ๊งที่นำแสดงโดย Audrey Hepburn และ Peter O’Toole โดยเป็นเ…

อ่านต่อ

Two for the Road (1967) | Director: Stanley Donen
Drama – Comedy – Romance


ณ ประเทศฝรั่งเศส สถาปนิต Mark Wallace (Albert Finney) กำลังขับรถเดินทางมุ่งหน้าไปพบลูกค้าร่ำรวยรายหนึ่ง โดยมี Joanna (Audrey Hepburn) ภรรยานั่งอยู่เคียงข้าง ระหว่างทางมุ่งหน้าไปยังตอนเหนือของประเทศ บรรยากาศชนบทสร้างกลิ่นไอความรู้สึกแก่สองสามีภรรยาให้รำลึกถึงเหตุการณ์ความสัมพันธ์ของพวกเขาเมื่อสิบปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำครั้งแรกที่พวกเขาเจอกัน หรือการแต่งงาน …จากคู่รักที่มีชีวิตชีวาขี้เล่นหยอกล้อ กลายเป็นคู่ชีวิตที่เบื่อหน้าและหันหลังใส่กัน ทั้งสองพยายามต่อสู้ดิ้นรนที่จะรื้อฟื้นความรักความผูกพันธ์ แต่ไฉนหากยังไม่เรียนรู้ถึงความซื่อสัตย์ต่อกัน


Wait Until Dark (1967) | Director: Terence Young
Horror – Thriller


Sam Hendrix (Efrem Zimbalist Jr.) กลับมาบ้านพร้อมตุ๊กตาตัวหนึ่งที่บังเอิญได้มา โดยหารู้ไม่ว่าข้างในนั้นมีเฮโรอีนยัดเอาไว้อยู่ เหล่ากลุ่มอาชญากรนำโดย Roat (Alan Arkin) หัวหน้าจอมเหี้ยมโหดต้องการของของเขาคืนจึงออกตามล่า พวกเหล่าร้ายรอคอยจังหวะที่จะลงมือปฏิบัติการหลังจาก Hendrix ออกจากบ้านไป โดยมี Susy (Audrey Hepburn) ภรรยาตาบอดของเขาอยู่เพียงลำพังในอพาร์ทเม้น และเกมอันตรายถึงชีวิตก็ได้เริ่มต้นขึ้น…